Main menu

#htmlcaption1 Kanemori Red Brick Warehouse Former Hokkaido Govt.Bldg. Usuzan Ropeway Otaru Canal

low-column

Tuesday, September 8, 2020

งบกระแสเงินสด#2

การคำนวณจะเริ่มตั้งต้นจาก ยอดBalance CashFlow ที่ยกยอดมาจากเดือนก่อน 
จากนั้นก็นำไปหักลบ(+/-)กับยอดกำไรสุทธิ (純利益หรือเรียกว่า 経常利益 )รวมถึงหัวข้อต่างๆตามBalance Sheet (貸借対照表)โดยดูจากยอดของเดือนนี้เปรียบเทียบกับเดือนก่อนว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง 
ยกตัวอย่างในส่วนของ 営業キャッシュフロー ซึ่งมีแนวคิดดังต่อไปนี้

1.หนี้สิน(負債)   หนี้สิน ↑              เงินสด ↑       
   1.1 เจ้าหนี้การค้า(仕入れ債務หรือ買い掛け)
   เจ้าหนี้↑              เงินสด ↑       .... ยังไม่ได้จ่ายเงินเค้าอะดิ  เลยมีเงินสดเพิ่ม
            เจ้าหนี้↓              เงินสด ↓       .... เอาเงินสดจ่ายหนี้เค้าไปแล้ว  เงินสดเลยลดลง
   1.2 หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ
   1.3 ค่าใช้จ่ายคงค้าง

2.สินทรัพย์ (資産)  สินทรัพย์ ↑              เงินสด↓ 
   2.1 ลูกหนี้การค้า (売上げ債権หรือ売り掛け)
     ลูกหนี้↑              เงินสด↓      ..... ลูกหนี้ยังไม่ได้จ่ายเงินมาให้เรา เงินสดเลยลดลง
           ลูกหนี้↓              เงินสด↑      ..... ลูกหนี้จ่ายเงินให้เรามาแล้ว เลยมีเงินสดเพิ่ม

ยังไม่งงกันใช่มั้ย   ติดตามต่อ つづく



งบประแสเงินสด

 งบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flow)

ในทุกเดือนทางAdmin จะมีการประชุมTV. Conf.กับทางญี่ปุ่น ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ"กระแสเงินสด" เนี่ยแหละ  พยายามดูจากเอกสารเพื่อทำความเข้า แต่ก็ไม่Getสักที  

อย่างเช่น ลูกหนี้เพิ่มขึ้น เราต้องได้เงินสดเพิ่มขึ้นสิ ..แต่ทำไมสูตรคำนวณถึงเป็นลบ...งงงงงง จึงเป็นที่มาของบทความนี้

ภาษาญี่ปุ่น คือ キャッシュフロー計算書   มี 4ส่วนหลัก ดังนี้
1. กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน  営業キャッシュフロー
    *ควรมีตัวเลขเป็นบวก

2. กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน  投資キャッシュフロー
 *ตัวเลขควรเป็นลบ (เนื่องจากมีกำไร..จึงเอาเงินสดไปลงทุน)

3.กระแสเงินสดอิสระ フリーキャッシュフロー
   เงินสดที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ
   เป็นยอด Sum. ของกระแสเงินข้อ (1) กับ (2)

4.กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน 財務キャッシュフロー
 *ตัวเลขควรเป็นลบ (เนื่องจากมีกำไร..จึงเอาเงินสดไปชำระหนี้)

             つづく

 

Thursday, September 3, 2020

利益計画

 利益計画 (Profit Planning)   "การวางแผนกำไร"

 ในมุมมองที่ว่า... เราจะต้องขายให้ได้กี่หน่วย(ชิ้น) หรือกี่บาทถึงจะมีกำไรตามที่เราต้องการ????  
 จากสมการบทความที่แล้ว...เพียงแค่บวกเพิ่มกำไรที่ต้องการเข้าไปในต้นทุนคงที่ก็จะได้คำตอบเอง

สมมุติเราต้องการขายให้ได้กำไร 240บาท
ปริมาณขายณ.จุดคุ้มทุน  =   300+240 / (100-40)       -->   9 หน่วย(ชิ้น) 
                   * เท่ากับว่าเราต้องขายให้ได้ 9หน่วย ถึงจะมีกำไรที่ 240บาท

ยอดขายณ.จุดคุ้มทุน   =  300 +240/ (60/100)      -->   900 บาท
                    * เท่ากับว่าเราต้องขายให้ได้ 900บาท ถึงจะมีกำไรที่ 240บาท

จบข่าว



損益分岐点#2

 จุดคุ้มทุน สามารถหาได้จากสมการง่ายๆ 2อย่างดังนี้

1. ในมุมมองที่ว่า..จากต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง เราจะต้องขายให้ได้กี่หน่วย(ชิ้น) ถึงจะคุ้มทุน????
     สมการ:  ปริมาณขายณ.จุดคุ้มทุน  =   ต้นทุนคงที่ / กำไรส่วนเกินต่อหน่วย

 ยอดขาย                      300 บาท _           (ราคาต่อหน่วย 100บาท)   
       ค่าใช้จ่ายผันแปร         120 บาท           (ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อหน่วย 40บาท)
      กำไรส่วนเกิน                180 บาท _       (กำไรส่วนเกินต่อหน่วย 60บาท)
      ค่าใช้จ่ายคงที่               300 บาท
                       ขาดทุน    ▲120 บาท

                   ปริมาณขายณ.จุดคุ้มทุน  =   300 / (100-40)       -->   5 หน่วย(ชิ้น) 
                   * เท่ากับว่าเราต้องขายให้ได้ 5หน่วย ถึงจะคุ้มทุน

   2. ในมุมมองที่ว่า..เราจะต้องขายให้ได้กี่บาท ถึงจะคุ้มทุน????
      สมการ:  ยอดขายณ.จุดคุ้มทุน  =   ต้นทุนคงที่ / อัตรากำไรส่วนเกิน     
         อัตรากำไรส่วนเกินหาได้จาก      กำไรส่วนเกินต่อหน่วย / ราคาต่อหน่วย
    
                  ยอดขายณ.จุดคุ้มทุน  =  300 / (60/100)      -->   500 บาท




損益分岐点

損益分岐点 (Break Event Point)

ภาษาไทยเรียกว่า  "จุดคุ้มทุน"   คือ จุดที่ยอดขายเท่ากับค่าใช้จ่ายรวม
สมการ : ยอดขาย   =   ค่าใช้จ่ายคงที่ + ค่าใช้จ่ายผันแปร
           (ปริมาณขาย x ราคาต่อหน่วย)  =   ค่าใช้จ่ายคงที่ + (ปริมาณขาย x ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย)

ตัวอย่างเช่น
       ยอดขาย                      500 บาท _        
       ค่าใช้จ่ายผันแปร          200 บาท           
      กำไรส่วนเกิน                300 บาท _       
      ค่าใช้จ่ายคงที่               300 บาท
                       เท่าทุน      +  0บาท




Wednesday, September 2, 2020

限界利益

 限界利益(Contribution Margin)

ภาษาไทย เรียกว่า "กำไรส่วนเกิน"   เป็นดัชนีอันนึงสำหรับวิเคราะห์ต้นทุนหรือวิเคราะห์จุดคุ้มทุน ซึ่งคำว่า"ต้นทุน"ในที่นี้อาจหมายความเฉพาะต้นทุนการผลิตเท่านั้น หรืออาจหมายความรวมถึงค่าการขายและบริหาร(Sell&Admin) ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้บริหารที่จะนำไปวิเคราะห์

กำไรส่วนเกิน  =   ยอดขาย - ค่าใช้จ่ายผันแปรส่วนเกินที่ว่าเนี่ยถ้าสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ส่วนที่เหลือได้ ก็จะถือว่ามีกำไร แต่ถ้าไม่ได้ก็คือว่าขาดทุน

อัตรากำไรส่วนเกิน  =  กำไรส่วนเกิน / ยอดขาย

ตัวอย่างเช่น
       ยอดขาย                      300 บาท _        (ราคาต่อหน่วย 100บาท)   
       ค่าใช้จ่ายผันแปร         120 บาท           (ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อหน่วย 40บาท)
      กำไรส่วนเกิน                180 บาท _       (กำไรส่วนเกินต่อหน่วย 60บาท)
      ค่าใช้จ่ายคงที่               300 บาท
                       ขาดทุน    ▲120 บาท

      อัตรากำไรส่วนเกิน =  180/300   --->    0.60 (60%)

* หมายความว่าถ้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 100 บาท  ก็จะมีกำไรส่วนเกินเพิ่มขึ้น 60 บาท

  ระวัง! โดยหลักการแล้วถ้ายอดขายเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายผันแปรก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ลองคำนวณดูแล้วกันว่าต้องขายเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ กำไรส่วนเกินจะสามารถครอบคลุมส่วนที่ติดลบได้?????

つづく"จุดคุ้มทุน"



Thursday, August 27, 2020

Diaphragm#2

 ในหลักการเดียวกันนี้ จึงมีการนำไปใช้กับอุปกรณ์ควบคุมแรงดันต่างๆ (ลม, น้ำมัน)

ยกตัวอย่าง เช่น  "WasteGate" นักซิ่งจะรู้ดี เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันกับ Turbo หรือกังหันอัดอากาศในเครื่องยนต์(過給機)  ซึ่งใน WasteGate ก็จะมีแผ่นไดอะแฟรมเป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกัน

หลักการทำงานคือ ไอเสียที่ได้จากการเผาไหม้จะไปปั่นใบพัดฝั่งไอเสีย และทำให้ใบพัดฝั่งไอดีที่อยู่ในแกนเดียวกันหมุนตามไปด้วย เมื่อใบพัดหมุนเร็วขึ้น...อากาศทางฝั่งไอดีก็จะไหลเข้าไปได้เร็วขึ้นแรงขึ้น แต่ถ้าใบพัดหมุนเร็วจนเกินLimit ก็จะทำให้ Turbo พังได้  จึงต้องมีอุปกรณ์ WasteGateเพื่อช่วยระบายไอเสียส่วนเกินให้ไหลออกไป

แรงดันจากท่อไอดีที่ต่อพ่วงมาที่ WasteGate จะไปดันแผ่น "ไดอะแฟรม" ให้ขยายตัว และเมื่อแรงดันมีเพิ่มขึ้นจนชนะแรงกดของสปริง ก็จะทำให้วาล์วเปิดออกและระบายไอเสียส่วนเกินออกไป เพื่อรักษาแรงดันไม่ให้เกินจากที่กำหนด